วันพุธที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2556
" กินอาหารต้านเครียดช่วยให้ผิวพรรณสดใส "
" กินอาหารต้านเครียดช่วยให้ผิวพรรณสดใส
"
" ความเครียด" เป็นภาวะที่คนยุคใหม่ต้องประสบพบเจออยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากมีปัญหามากมายในชีวิตประจำวันต้องให้ขบคิด ทั้งเรื่องงาน ครอบครัว หนี้สิน เงินทอง ส่งผลต่อการทำงานของร่างกายและมีพฤติกรรมการบริโภคที่เปลี่ยนไป บางคนกลายเป็นคนอ้วนตุ้ยนุ้ยหรือบางคนมีอาการซึมเศร้าอ่อนเพลียจนหน้าแก่ก่อนวัย คุณผู้อ่านทราบหรือไม่ว่าการเลือกรับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์จะสามารถช่วยต้านความเครียดและคืนความสดใสให้เราได้เหมือนเดิม
ภญ.กรรณิการ์ เอกศักดิ์ บริษัท เฮลธ์ อิมแพค จำกัด ให้ความรู้ว่าอาการเครียดนั้นบางคนรู้ตัวแต่บางคนก็ไม่รู้ตัวจึงทำให้เกิดเป็นความเครียดสะสม ซึ่งส่งผลต่อสภาพร่างกายและสภาวะจิตใจ โดยอาการที่พบบ่อย เช่น มึนงง ปวดศีรษะ นอนไม่หลับ ระบบขับถ่ายแปรปรวน หายใจไม่อิ่ม คลื่นไส้อาเจียน วิตกกังวล หงุดหงิด ซึมเศร้า ซึ่งมีผลต่อร่างกาย เช่น บางคนเครียดแล้วกิน จนควบคุมไม่ได้ หุ่นที่เคยเพรียวก็อ้วนขึ้น ที่สำคัญคือไม่สามารถกลับมาพร้อมได้เหมือนเดิม ส่วนบางคนที่มีอาการทางจิตใจ เช่น ซึมเศร้า เหงาหงอยทำให้เบื่ออาหาร เมื่อยิ่งไม่กินร่างกายก็จะขาดน้ำ ทำให้ไร้เรี่ยวแรง อ่อนเพลีย และทรุดโทรม
ดังนั้นเมื่อเกิดภาวะเครียดร่างกายจะสลายไขมันและน้ำตาลออกมาเพื่อผลิตพลังงานเพิ่มขึ้น ยิ่งเครียดมากเท่าไรร่างกายจะยิ่งดึงสารอาหารออกมาใช้มากขึ้น จึงทำให้เรารู้สึกอ่อนเพลีย หงุดหงิด นอนไม่หลับ เคล็ดลับการทานอาหารต้านความเครียดสำหรับคนนอนไม่หลับคือ อาหารมื้อค่ำควรทานอาหารเบาๆไม่อิ่มมาก ส่วนคนที่ชอบดื่มชาหรือกาแฟเพื่อกระตุ้นร่างกายจากอาการมึนงง ถ้าดื่มน้อยๆอาจรู้สึกว่าดีช่วยให้สมองแจ่มใส แต่ถ้าดื่มมากเกินไปกลับเป็นผลลบ เพราะกาเฟอีนมีฤทธิ์เป็นสารกระตุ้นและเพิ่มการหลั่งของกรดในกระเพาะและมีฤทธิ์ในการขับปัสสาวะทำให้ไตทำงานหนักขึ้น เพิ่มความเครียดในการทำงานของร่างกาย ดังนั้นเราจึงเห็นว่าบางคนที่ติดกาแฟหรือทานกาแฟมากๆถึงดูแก่กว่าวัย
สำหรับอาหารต้านเครียดนั้นควรเลือกรับประทานอาหารที่ให้ไขมันต่ำมีกากใยอาหารสูง เช่น ผักผลไม้หลากชนิด นอกจากนี้การทานวิตามันบีและสารอาหารประเภทแอนตี้ออกซิแดนท์หรือสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินซีก็จะช่วยให้ร่างกายมีระบบภูมิคุ้มกันและทนต่อความเครียดในสภาวะต่างๆได้ดีขึ้น ซึ่งการทานวิตามินซีนอกจากจะช่วยต้านความเครียดแล้วยังมีประโยชน์มากมายที่สาวๆชอบกันมากคือช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง สดใส ช่วยต้านหวัด และยิ่งในปัจจุบันมีวิตามินซีในรูปแบบซีโด้ เจลลี่ กลีบส้มที่ทานได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ด้วยยิ่งง่ายสะดวก
สุดท้ายการมองโลกในแง่ดี นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอวันละ 6-8 ชั่วโมง ดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว และออกกำลังกายสม่ำเสมอก็จะทำให้เรื่องเครียดเป็นปัญหาที่เราสามารถจัดการออกไปได้ไม่ยาก เพราะถ้าเรายิ่งขจัดความเครียดได้มากและบ่อยก็ถือว่าเป็นการดูแลสุขภาพได้ดีทั้งภายในและภายนอก ทำให้เรากลับมามีเรี่ยวแรงและมีผิวพรรณที่สดใสสวยงามพร้อมจะเผชิญกับปัญหาต่างๆต่อไปได้แบบสบายๆ
ที่มา
เดลินิวส์วาไรตี้
ป้ายกำกับ:
คลินิกหมอพรประสิทธิ,
เครียด
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ค้นหาใน Web นี้
บทความที่ได้รับความนิยม
-
Tennis Elbow คือกลุ่มอาการปวดกล้ามเนื้อ เส้นเอ็นทางด้านนอกข้อศอก ซึ่งเกิดจากการอักเสบตรงบริเวณที่ยึดเกาะของกล้ามเนื้อที่ใช้ในการกระดกข้อมือ...
-
เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส วาริเซลลา มีลักษณะอาการเป็นผื่นแดงราบ ตุ่มใส ตุ่มหนอง กระจายตามหน้า ลำตัว และแผ่นหลัง และมีไข้ เกิดจากเชื้อไว...
-
การขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชาย จำเป็นหรือไม่ ? บทนำ การขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชาย เป็นการผ่าตัดเล็กที่ทำกันบ่อยมาก จนเกือ...
-
ต่อมทอนซิล คือต่อมน้ำเหลืองที่อยู่บริเวณด้านข้างลำคอตรงโคนลิ้น เป็นส่วนหนึ่งของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ภายในต่อมมีเม็ดเลือดขาวหลายชนิดทำ...
-
การล้างจมูกคืออะไร การล้างจมูก คือ การทำความสะอาดโพรงจมูก โดยการใส่ หรือหยอดน้ำเข้าไปในจมูกการล้างจมูก จะช่วยชะล้างมูก ครา...
-
ปุ่มกระดูกในช่องปาก ปุ่มกระดูกในช่องปากมีชื่อเรียกต่างกันไปตามตำแหน่งที่พบ เช่น พบในบริเวณกึ่งกลางเพดานของขากรรไกรบน จะเร...
-
อาหารสำหรับผู้ป่วยโรคเก๊าท์ กรดยูริคที่เป็นตัวการทำให้ข้ออักเสบในผู้ป่วยโรคเก๊าท์ เกิดมาจาก “ สารพิวรีน ” ทั้งที่มีอยู่ในร่าง...
-
โรค Carpal Tunnel Syndrome หรือชื่อย่อคือ CTS เป็นโรคที่พบได้บ่อย เกิดจากเส้นประสาทมีเดียน (Median Nerve) ซึ่งเป็นเส้นประสาทที่เลี้ยงกล้า...
-
ผ่าตัดริดสีดวงทวาร อย่างไรไม่ให้เจ็บ (หรือเจ็บน้อย) โรคริดสีดวงทวารเป็นโรคที่พบบ่อย เกิดจากการโป่งพองของหลอดเลือดขนาดเล็กบริเวณเยื่อบุ...
-
ผ่าตัดริดสีดวงทวาร อย่างไรไม่ให้เจ็บ (หรือเจ็บน้อย) โรคริดสีดวงทวารเป็นโรคที่พบบ่อย เกิดจากการโป่งพองของหลอดเลือดขนาดเล็กบริเวณเยื่อบ...
จำนวนการดูหน้าเว็บรวม
ผู้ติดตาม
ขับเคลื่อนโดย Blogger.
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น