วันพฤหัสบดีที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2556
โรคภูมิแพ้และหอบหืดในเด็ก
โรคภูมิแพ้และหอบหืดในเด็ก
ภูมิแพ้คือภาวะที่ร่างกายมีความไวต่อสิ่งกระตุ้นมากกว่าปกติ หรือ ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายทำงานมากกว่าปกติเมื่อพบกับสิ่งกระตุ้นอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น เกษรดอกไม้ ไรฝุ่น หรืออาหารบางชนิด ซึ่งจะเกิดในคนบางคนอาการของโรคภูมิแพ้
อาการของภูมิแพ้แสดงได้หลายแบบในแต่ละคน
เมื่อผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ได้รับสารก่อภูมิแพ้ เช่น ไรฝุ่น ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายก็จะเริ่มทำงานต่อสู้กับสิ่งแปลกปลอก (ในที่นี้คือ
ไรฝุ่น) เม็ดเลือดขาวซึ่งทำหน้าที่เหมือนทหารก็จะปล่อยสารเคมีชนิดหนึ่งออกมาเรียกว่าฮีสตามีน สารฮีสตามีน เป็นสารที่ทำให้เกิดอาการภูมิแพ้ ต่างๆ ได้แก่ คัดจมูก
น้ำมูกไหล เคืองตา น้ำตาไหล ไอ คันที่เพดานปาก
ผื่นลมพิษ หอบหืด
(ภาพประกอบ....ขอขอบคุณ..น้องพู่กัน ด.ช กฤษติน ไม่ได้ป่วยแต่กำลังง่วงนอน)
อาการภูมิแพ้อย่างรุนแรงที่เรียกว่า อนาไฟแลกซิส anaphylaxis คือ มีอาการบวมของใบหน้าและระบบทางเดินหายใจ หากรักษาไม่ทันอาจช็อคและเสียชีวิตได้
ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคภูมิแพ้
1. ปัจจัยพันธุกรรม ถ้ามีลูกเป็นโรคภูมิแพ้ แสดงว่าพ่อ-แม่อาจมียีนที่ทำให้เกิดโรคภูมิแพ้ ถ้าพ่อหรือแม่เป็นโรคภูมิแพ้ ลูกมีโอกาสที่จะเป็นโรคภูมิแพ้ประมาณ 40% แต่ถ้าทั้งพ่อและแม่เป็นโรคภูมิแพ้ โอกาสที่จะมีลูกเป็นโรคภูมิแพ้ก็มีมากขึ้นถึง 80%
2. ปัจจัยทางสิ่งแวดล้อมที่มีสารก่อให้เกิดภูมิแพ้ ได้แก่ ขนของสัตว์เลี้ยงในบ้าน ขนแมว ขนสุนัข ละอองควันจากท่อไอเสียที่เกิดจากยวดยานพาหนะบนท้องถนน เช่น รถยนต์ รถบรรทุก เครื่องยนต์ดีเซล ก๊าซที่เกิดจากการเผาไหม้ ก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซด์ ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์สปอร์ของจุลชีพ เช่น สปอร์ของเชื้อรา ซึ่งมองไม่เห็น ไรฝุ่นในเครื่องนอน และแมลงสาบในบ้านและชุมชน
ทารกแรกเกิดที่ได้ดื่มนมแม่อย่างน้อย 6 เดือนจะมีส่วนช่วยป้องกันและลดการเกิดโรคภูมิแพ้ได้ และยังช่วยเสริมภูมิคุ้มกันได้ด้วย นมแม่ไม่มีสารก่อภูมิแพ้ นมผงผสมมีส่วนทำให้เกิดภูมิแพ้ได้ ไม่ว่าจะเป็นนมวัว หรือ นมถั่วเหลือง ถ้าจำเป็นต้องเลือกนมผสม ให้เลือกสูตรนมผสมที่ผ่านการย่อยโปรตีนที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ (Protein Hydrolysate หรือ Hypoallergenic )และแนะนำให้เริ่มรับประทานอาหารเสริม 1 มื้อ หลังอายุ 6 เดือน ไม่ควรเริ่มเร็วเกินไป การเริ่มอาหารเสริมให้เริ่มทีละ ๑ ชนิด ค่อยเป็นค่อยไป
การป้องกันและหลีกเลี่ยงอาการภูมิแพ้
ค้นหาว่าอะไรที่ทำให้ลูกเกิดอาการภูมิแพ้จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่าง ยิ่งยวด เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงต่อสารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ได้ กำจัดพรม และเครื่องนอนที่ทำมาจากผ้าฝ้าย ผ้าเลนิน ลดปริมาณไรฝุ่นโดยห่อหุ้มที่นอนด้วยพลาสติก หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ เช่น บุหรี่ ยาสูบ น้ำหอม ละอองเกสรดอกไม้ ควันสูบบุหรี่ บางฤดูที่มีดอกไม้และละอองเกษรมาก ควรจัดตารางเวลาออกนอกบ้าน เพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับละอองเกสร สวมหน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่นละออง ให้เด็กรับประทานอาหารตามวัย ไม่แนะนำอาหารหลากหลายชนิดเร็วจนเกินไป
ยา ปัจจุบันมียาหลายชนิดที่ใช้ควบคุมอากาภูมิแพ้ ได้แก่
ยาที่ช่วยต้านฤทธิ์ของ ฮีสตามีน ซึ่งเป็นสารเคมีที่ร่างกายสร้างและก่อให้เกิดอาการของภูมิแพ้
ยาพ่นจมูก ซึ่งช่วยลดอาการคัดจมูกลง
Steriod พ่นจมูก ลดการอักเสบบริเวณโพรงจมูก และลดอาการบวมลง ซึ่งเป็นยาที่มีประสิทธิภาพ
Leukotriene antagonist เป็นยาที่ต้านฤทธิ์ของสารเคมีในร่างกายทีชื่อ Leukotriene เป็นยาใหม่ที่ใช้ในผู้ป่วยโรคหอบหืด
สรุป
โรคภูมิแพ้มีปัจจัยที่เป็นสาเหตุจากทั้งพันธุกรรม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งส่งผลให้มีการตอบสนองต่อสารต่างๆที่โดยปกติไม่ก่อให้เกิดอันตราย แต่ผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ ทำให้มีการตอบสนองที่ไวเกินไป และมีการหลั่งฮีสตามีน และทำให้เกิดอาการของโรคภูมิแพ้ สารที่ก่อภูมิแพ้ที่พบบ่อยๆได้แก่ ไรฝุ่น แมลงสาบ เกสรดอกไม้ สปอร์ของรา รวมถึงฝุ่นและมลพิษมี่เกิดขึ้นจากการเผาไหม้ของเครื่องยนต์
ค้นหาว่าอะไรที่ทำให้ลูกเกิดอาการภูมิแพ้จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่าง ยิ่งยวด เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงต่อสารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ได้ กำจัดพรม และเครื่องนอนที่ทำมาจากผ้าฝ้าย ผ้าเลนิน ลดปริมาณไรฝุ่นโดยห่อหุ้มที่นอนด้วยพลาสติก หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ เช่น บุหรี่ ยาสูบ น้ำหอม ละอองเกสรดอกไม้ ควันสูบบุหรี่ บางฤดูที่มีดอกไม้และละอองเกษรมาก ควรจัดตารางเวลาออกนอกบ้าน เพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับละอองเกสร สวมหน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่นละออง ให้เด็กรับประทานอาหารตามวัย ไม่แนะนำอาหารหลากหลายชนิดเร็วจนเกินไป
ยา ปัจจุบันมียาหลายชนิดที่ใช้ควบคุมอากาภูมิแพ้ ได้แก่
ยาที่ช่วยต้านฤทธิ์ของ ฮีสตามีน ซึ่งเป็นสารเคมีที่ร่างกายสร้างและก่อให้เกิดอาการของภูมิแพ้
ยาพ่นจมูก ซึ่งช่วยลดอาการคัดจมูกลง
Steriod พ่นจมูก ลดการอักเสบบริเวณโพรงจมูก และลดอาการบวมลง ซึ่งเป็นยาที่มีประสิทธิภาพ
Leukotriene antagonist เป็นยาที่ต้านฤทธิ์ของสารเคมีในร่างกายทีชื่อ Leukotriene เป็นยาใหม่ที่ใช้ในผู้ป่วยโรคหอบหืด
สรุป
โรคภูมิแพ้มีปัจจัยที่เป็นสาเหตุจากทั้งพันธุกรรม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งส่งผลให้มีการตอบสนองต่อสารต่างๆที่โดยปกติไม่ก่อให้เกิดอันตราย แต่ผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ ทำให้มีการตอบสนองที่ไวเกินไป และมีการหลั่งฮีสตามีน และทำให้เกิดอาการของโรคภูมิแพ้ สารที่ก่อภูมิแพ้ที่พบบ่อยๆได้แก่ ไรฝุ่น แมลงสาบ เกสรดอกไม้ สปอร์ของรา รวมถึงฝุ่นและมลพิษมี่เกิดขึ้นจากการเผาไหม้ของเครื่องยนต์
โรคภูมิแพ้และโรคหอบหืดมีความสัมพันธ์กัน
โรคหอบหืดในเด็กที่อายุต่ำกว่า 5 ปี พบได้บ่อย
ทำให้เด็กต้องนอนโรงพยาบาล และขาดเรียนบ่อยมาก ประมาณ 30 - 80% จะมีประวัติไอ และมีเสียง Wheez ( วี้ด ) อย่างน้อย 1
ครั้งก่อนอายุ 5 ปี
พวกที่มีอาการรุนแรงที่สุดคือ พวกที่มี wheez เร็ว
ในขวบปีแรก และมีประวัติครอบครัวเป็นหอบหืดร่วมกับโรคภูมิแพ้ ถ้าพ่อแม่เป็นโรคภูมิแพ้ 1 คน
ลูกที่เกิดมาจะมีโอกาสเป็นโรคนี้ 25% แต่ถ้าพ่อแม่เป็นทั้ง 2
คน โอกาสที่ลูกจะเป็นได้มีประมาณ 50%
สาเหตุโรคหอบหืด
หลอดลมของเด็กที่เป็นหอบหืดนั้น เชื่อว่ามีความไวผิดปกติต่อสิ่งกระตุ้น ทำให้หลอดลมหดเกร็งตัวแคบลง เยื่อบุภายในหลอดลมบวมขึ้น และสร้างเมือกเหนียว ซึ่งจะยิ่งทำให้ช่องทางเดินอากาศในหลอดลมแคบลงอีก ทำให้เกิดอาการหอบหืดขึ้น สิ่งกระตุ้นเหล่านี้เช่น โรคหวัด ควันบุหรี่ ฝุ่น ละอองเกสร การออกกำลังกาย ขนสุนัข ขนแมว ฯลฯ
อาการโรคหอบหืด
เริ่มต้นด้วยอาการ หวัด ไอ มีเสมหะ ถ้าไอมากขึ้นเรื่อยๆ ก็มักจะมีเสียงวี้ดๆ ในช่วงหายใจออก เมื่อร่างกายขาดออกซิเจนมากขึ้น ก็เกิดอาการหอบมาก ปากซีดเขียว ใจสั่น บางครั้งการเกร็งตัวของหลอดลมเกิดขึ้นไม่มากนัก ทำให้คนไข้มีอาการไม่มากแต่ก็เป็นอยู่เรื่อยๆ เด็กๆ บางคนจะมีอาการไออย่างเดียว และมักจะมีอาการอาเจียนร่วมไปด้วย ซึ่งอาการไอจะดีขึ้น หลังจากที่เด็กได้อาเจียนเอาเสมหะหนียวๆ ออก
ความรุนแรงของหอบหืด
ขั้นเล็กน้อย เริ่มไอ และ/หรือ มีเสียงวี้ด แต่ยังเล่นซนได้ตามปกติ และทานอาหารได้ตามปกติ การนอนยังปกติ
ขั้นปานกลาง ตื่นกลางคืนบ่อยๆ วิ่งเล่นซนไม่ค่อยได้ ขณะเล่นมักไอ หรือมีเสียงวี้ดไปด้วย
ขั้นรุนแรงกระสับกระส่ายจนนอนไม่ได้ เล่นซนไม่ได้ เหนื่อยหอบจนพูดหรือกินอาหารไม่ได้ หรือรอบริมฝีปากเป็นสีเขียว
สาเหตุโรคหอบหืด
หลอดลมของเด็กที่เป็นหอบหืดนั้น เชื่อว่ามีความไวผิดปกติต่อสิ่งกระตุ้น ทำให้หลอดลมหดเกร็งตัวแคบลง เยื่อบุภายในหลอดลมบวมขึ้น และสร้างเมือกเหนียว ซึ่งจะยิ่งทำให้ช่องทางเดินอากาศในหลอดลมแคบลงอีก ทำให้เกิดอาการหอบหืดขึ้น สิ่งกระตุ้นเหล่านี้เช่น โรคหวัด ควันบุหรี่ ฝุ่น ละอองเกสร การออกกำลังกาย ขนสุนัข ขนแมว ฯลฯ
อาการโรคหอบหืด
เริ่มต้นด้วยอาการ หวัด ไอ มีเสมหะ ถ้าไอมากขึ้นเรื่อยๆ ก็มักจะมีเสียงวี้ดๆ ในช่วงหายใจออก เมื่อร่างกายขาดออกซิเจนมากขึ้น ก็เกิดอาการหอบมาก ปากซีดเขียว ใจสั่น บางครั้งการเกร็งตัวของหลอดลมเกิดขึ้นไม่มากนัก ทำให้คนไข้มีอาการไม่มากแต่ก็เป็นอยู่เรื่อยๆ เด็กๆ บางคนจะมีอาการไออย่างเดียว และมักจะมีอาการอาเจียนร่วมไปด้วย ซึ่งอาการไอจะดีขึ้น หลังจากที่เด็กได้อาเจียนเอาเสมหะหนียวๆ ออก
ความรุนแรงของหอบหืด
ขั้นเล็กน้อย เริ่มไอ และ/หรือ มีเสียงวี้ด แต่ยังเล่นซนได้ตามปกติ และทานอาหารได้ตามปกติ การนอนยังปกติ
ขั้นปานกลาง ตื่นกลางคืนบ่อยๆ วิ่งเล่นซนไม่ค่อยได้ ขณะเล่นมักไอ หรือมีเสียงวี้ดไปด้วย
ขั้นรุนแรงกระสับกระส่ายจนนอนไม่ได้ เล่นซนไม่ได้ เหนื่อยหอบจนพูดหรือกินอาหารไม่ได้ หรือรอบริมฝีปากเป็นสีเขียว
ยารักษาโรคหอบหืด
1. ยาขยายหลอดลม มีทั้งชนิดพ่น และชนิดรับประทาน ซึ่งชนิดพ่นจะให้ผลได้เร็วกว่า และยังสามารถให้ได้ในเด็กเล็กๆ ยาชนิดนี้ จะช่วยให้การหายใจโล่งขึ้น เพราะไปขยายกล้ามเนื้อเล็กๆ ซึ่งอยู่ภายในหลอดลมที่หดเกร็ง เพื่อเปิดหลอดลมนั้น จะใช้เมื่อปรากฏอาการหอบ และใช้พ่นก่อนมีอาการ เพื่อ ป้องกันหอบหืดที่เกิดจากการออกกำลังกาย ยาขยายหลอดลมจึงเป็นยารักษาที่สำคัญ
2. ยากลุ่ม Steroid จำเป็นต้องให้ เพียงระยะสั้นๆ คือ 3 - 5 วัน เพื่อรักษา และป้องกันไม่ให้โรครุนแรงขึ้น เด็กจะไม่รับผลข้างเคียงจากยาตัวนี้ เนื่องจากใช้ระยะสั้น และ ให้ในบางกรณีที่จำเป็นเท่านั้น
3. ยาป้องกัน จะช่วยป้องกันเยื่อบุหลอดลมไม่ให้เกิดอาการหดเกร็งได้ง่าย เวลากระทบกับสิ่งกระตุ้น ฉะนั้นยาจะไม่ได้ออกฤทธิ์ขยายหลอดลมขณะมีอาการหอบหืด การใช้ยาป้องกัน ต้องใช้สม่ำเสมอทุกวัน ถึงแม้เด็กจะมีอาการปกติแล้วก็ตาม ถ้าอาการหอบหืดควบคุมได้ดีแพทย์จะพิจารณาลดปริมาณยาลง
ยาพ่น
Inhalers คือยารักษาหอบหืด ในรูปยาพ่น ข้อดี คือ ยาผ่านเข้าปอดโดยตรง และให้ได้ในปริมาณที่น้อยกว่ายากิน และมีฤทธิ์ข้างเคียงน้อยกว่า แม้แต่ทารกในขวบปีแรก ก็สามารถใช้ยานี้ได้ และให้ประสิทธิภาพดีกว่ายาน้ำ ที่ใช้รับประทาน ยาพ่นมีทั้งชนิดแท่งสเปรย์ ( Aerosol puffer ) ชนิดอัดแห้ง ( dry powder ) เป็นกระเปาะ หรือแท่งดูด
Spacers ในเด็กเล็กทุกรายที่ใช้แท่งสเปรย์ ควรใช้ Spacer ร่วมด้วยเพราะเด็กเล็กจะหายใจเอายาผ่านหลอดลม เข้าไปได้ดีขึ้น Spacer ทำให้เรามั่นใจว่า ยาพ่นสามารถไปถึงหลอดลมได้ดียาไม่ตกค้างเกาะอยู่ที่คอ หรือกระพุ้งแก้มในปาก
Nembulisers เป็นเครื่องมือที่เปลี่ยนยาในสภาพของเหลว ให้เป็นละอองฝอย โดยใช้ Oxygen หรืออากาศผ่านเข้าไปภายในกระเปาะยา ใช้ในบางกรณี เช่น ในห้องฉุกเฉิน สำหรับเด็กหอบรุนแรงที่ต้องการปริมาณยาที่มากกว่า
1. ยาขยายหลอดลม มีทั้งชนิดพ่น และชนิดรับประทาน ซึ่งชนิดพ่นจะให้ผลได้เร็วกว่า และยังสามารถให้ได้ในเด็กเล็กๆ ยาชนิดนี้ จะช่วยให้การหายใจโล่งขึ้น เพราะไปขยายกล้ามเนื้อเล็กๆ ซึ่งอยู่ภายในหลอดลมที่หดเกร็ง เพื่อเปิดหลอดลมนั้น จะใช้เมื่อปรากฏอาการหอบ และใช้พ่นก่อนมีอาการ เพื่อ ป้องกันหอบหืดที่เกิดจากการออกกำลังกาย ยาขยายหลอดลมจึงเป็นยารักษาที่สำคัญ
2. ยากลุ่ม Steroid จำเป็นต้องให้ เพียงระยะสั้นๆ คือ 3 - 5 วัน เพื่อรักษา และป้องกันไม่ให้โรครุนแรงขึ้น เด็กจะไม่รับผลข้างเคียงจากยาตัวนี้ เนื่องจากใช้ระยะสั้น และ ให้ในบางกรณีที่จำเป็นเท่านั้น
3. ยาป้องกัน จะช่วยป้องกันเยื่อบุหลอดลมไม่ให้เกิดอาการหดเกร็งได้ง่าย เวลากระทบกับสิ่งกระตุ้น ฉะนั้นยาจะไม่ได้ออกฤทธิ์ขยายหลอดลมขณะมีอาการหอบหืด การใช้ยาป้องกัน ต้องใช้สม่ำเสมอทุกวัน ถึงแม้เด็กจะมีอาการปกติแล้วก็ตาม ถ้าอาการหอบหืดควบคุมได้ดีแพทย์จะพิจารณาลดปริมาณยาลง
ยาพ่น
Inhalers คือยารักษาหอบหืด ในรูปยาพ่น ข้อดี คือ ยาผ่านเข้าปอดโดยตรง และให้ได้ในปริมาณที่น้อยกว่ายากิน และมีฤทธิ์ข้างเคียงน้อยกว่า แม้แต่ทารกในขวบปีแรก ก็สามารถใช้ยานี้ได้ และให้ประสิทธิภาพดีกว่ายาน้ำ ที่ใช้รับประทาน ยาพ่นมีทั้งชนิดแท่งสเปรย์ ( Aerosol puffer ) ชนิดอัดแห้ง ( dry powder ) เป็นกระเปาะ หรือแท่งดูด
Spacers ในเด็กเล็กทุกรายที่ใช้แท่งสเปรย์ ควรใช้ Spacer ร่วมด้วยเพราะเด็กเล็กจะหายใจเอายาผ่านหลอดลม เข้าไปได้ดีขึ้น Spacer ทำให้เรามั่นใจว่า ยาพ่นสามารถไปถึงหลอดลมได้ดียาไม่ตกค้างเกาะอยู่ที่คอ หรือกระพุ้งแก้มในปาก
Nembulisers เป็นเครื่องมือที่เปลี่ยนยาในสภาพของเหลว ให้เป็นละอองฝอย โดยใช้ Oxygen หรืออากาศผ่านเข้าไปภายในกระเปาะยา ใช้ในบางกรณี เช่น ในห้องฉุกเฉิน สำหรับเด็กหอบรุนแรงที่ต้องการปริมาณยาที่มากกว่า
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง
1. ควันบุหรี่ เป็นสิ่งที่อันตรายต่อปอดที่กำลังเจริญเติบโตของเด็ก และเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดอาการหอบหืดได้
2. ตัวไรฝุ่น ฝุ่น มักอาศัยอยู่ที่เตียงนอน หมอน พรม เฟอร์นิเจอร์ บุนวม จึงควรนำไปตาก หรือผึ่งแดดบ่อยๆ ไม่ควรมีตุ๊กตาที่มีขนในห้องนอน ไม่ใช้พรมในห้องนอน ควรเช็ดฝุ่นทุกวัน ใช้ผ้าชนิดพิเศษที่มีคุณสมบัติป้องกันตัวไรฝุ่นคลุมที่นอน หมอน ซักผ้าปูที่นอน ปลอกหมอนด้วยน้ำอุณหภูมิ 60 ? c สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ใช้ที่นอนจากใยสังเคราะห์ หรือฟองน้ำ และไม่นำสัตว์เลี้ยงเข้าห้องนอน
3. ละอองเกสรในบางฤดู ควรหลีกเลี่ยงในบางฤดู และอาจเพิ่มปริมาณของยาป้องกันด้วย
4. สัตว์เลี้ยง ไม่ควรเลี้ยงสุนัข แมวในบ้าน เพราะเด็กหอบหืดบางคนจะแพ้ขนสัตว์ ซึ่งอาจรวมถึงนกด้วย
5. เชื้อรา ที่ชื้นๆ มักมีเชื้อรา ควรให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก
6. การออกกำลังกาย ถ้าควบคุมโรคหอบหืดได้ดี จะไม่มีปัญหาในการออกกำลังกาย หรือวิ่งเล่นซึ่งควรให้เด็กได้มีกิจกรรมนี้ตามปกติ
7. อากาศเย็น เด็กบางคนกระทบอากาศเย็น มักจะไอ หรือหายใจมีเสียงวี้ด การใช้ยาขยายหลอดลม 1 ครั้ง ก่อนเข้าห้องที่เย็นๆ จะช่วยได
ถ้าสามารถควบคุมโรคหอบหืดได้ดี เด็กจะไม่มีอาการไอ หรือ วี้ดในช่วงกลางคืนเลย การที่เด็กเล็กๆ นอนไม่ได้เพราะไอ จะรบกวนทั้งสุขภาพของเด็กและพ่อแม่ ปัญหาการนอนไม่พอ ทำให้คุณภาพชีวิตแย่ลง คุณแม่อาจจะอารมณ์เสีย และหงุดหงิดง่าย จึงควรปรึกษาแพทย์ เพื่อวางแผนการรักษา พบว่าเด็กที่เป็นโรคหอบหืด จะมีอาการน้อยลง เมื่ออายุมากขึ้นประมาณ 50% จะไม่มีอาการ หรือมีอาการน้อยมาก เมื่ออายุ 8 - 9 ปี แต่ในเด็กที่แพ้มากๆ หรือมีประวัติครอบครัวเป็นโรคภูมิแพ้ โอกาสหายน้อยลง เด็กที่ยังคงมีอาการหอบหืดจนถึงอายุ 14 ปี มีแนวโน้มจะเป็นหอบหืดเรื้อรังจนเป็นผู้ใหญ่
1. ควันบุหรี่ เป็นสิ่งที่อันตรายต่อปอดที่กำลังเจริญเติบโตของเด็ก และเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดอาการหอบหืดได้
2. ตัวไรฝุ่น ฝุ่น มักอาศัยอยู่ที่เตียงนอน หมอน พรม เฟอร์นิเจอร์ บุนวม จึงควรนำไปตาก หรือผึ่งแดดบ่อยๆ ไม่ควรมีตุ๊กตาที่มีขนในห้องนอน ไม่ใช้พรมในห้องนอน ควรเช็ดฝุ่นทุกวัน ใช้ผ้าชนิดพิเศษที่มีคุณสมบัติป้องกันตัวไรฝุ่นคลุมที่นอน หมอน ซักผ้าปูที่นอน ปลอกหมอนด้วยน้ำอุณหภูมิ 60 ? c สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ใช้ที่นอนจากใยสังเคราะห์ หรือฟองน้ำ และไม่นำสัตว์เลี้ยงเข้าห้องนอน
3. ละอองเกสรในบางฤดู ควรหลีกเลี่ยงในบางฤดู และอาจเพิ่มปริมาณของยาป้องกันด้วย
4. สัตว์เลี้ยง ไม่ควรเลี้ยงสุนัข แมวในบ้าน เพราะเด็กหอบหืดบางคนจะแพ้ขนสัตว์ ซึ่งอาจรวมถึงนกด้วย
5. เชื้อรา ที่ชื้นๆ มักมีเชื้อรา ควรให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก
6. การออกกำลังกาย ถ้าควบคุมโรคหอบหืดได้ดี จะไม่มีปัญหาในการออกกำลังกาย หรือวิ่งเล่นซึ่งควรให้เด็กได้มีกิจกรรมนี้ตามปกติ
7. อากาศเย็น เด็กบางคนกระทบอากาศเย็น มักจะไอ หรือหายใจมีเสียงวี้ด การใช้ยาขยายหลอดลม 1 ครั้ง ก่อนเข้าห้องที่เย็นๆ จะช่วยได
ถ้าสามารถควบคุมโรคหอบหืดได้ดี เด็กจะไม่มีอาการไอ หรือ วี้ดในช่วงกลางคืนเลย การที่เด็กเล็กๆ นอนไม่ได้เพราะไอ จะรบกวนทั้งสุขภาพของเด็กและพ่อแม่ ปัญหาการนอนไม่พอ ทำให้คุณภาพชีวิตแย่ลง คุณแม่อาจจะอารมณ์เสีย และหงุดหงิดง่าย จึงควรปรึกษาแพทย์ เพื่อวางแผนการรักษา พบว่าเด็กที่เป็นโรคหอบหืด จะมีอาการน้อยลง เมื่ออายุมากขึ้นประมาณ 50% จะไม่มีอาการ หรือมีอาการน้อยมาก เมื่ออายุ 8 - 9 ปี แต่ในเด็กที่แพ้มากๆ หรือมีประวัติครอบครัวเป็นโรคภูมิแพ้ โอกาสหายน้อยลง เด็กที่ยังคงมีอาการหอบหืดจนถึงอายุ 14 ปี มีแนวโน้มจะเป็นหอบหืดเรื้อรังจนเป็นผู้ใหญ่
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ค้นหาใน Web นี้
บทความที่ได้รับความนิยม
-
Tennis Elbow คือกลุ่มอาการปวดกล้ามเนื้อ เส้นเอ็นทางด้านนอกข้อศอก ซึ่งเกิดจากการอักเสบตรงบริเวณที่ยึดเกาะของกล้ามเนื้อที่ใช้ในการกระดกข้อมือ...
-
เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส วาริเซลลา มีลักษณะอาการเป็นผื่นแดงราบ ตุ่มใส ตุ่มหนอง กระจายตามหน้า ลำตัว และแผ่นหลัง และมีไข้ เกิดจากเชื้อไว...
-
การขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชาย จำเป็นหรือไม่ ? บทนำ การขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชาย เป็นการผ่าตัดเล็กที่ทำกันบ่อยมาก จนเกือ...
-
ต่อมทอนซิล คือต่อมน้ำเหลืองที่อยู่บริเวณด้านข้างลำคอตรงโคนลิ้น เป็นส่วนหนึ่งของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ภายในต่อมมีเม็ดเลือดขาวหลายชนิดทำ...
-
การล้างจมูกคืออะไร การล้างจมูก คือ การทำความสะอาดโพรงจมูก โดยการใส่ หรือหยอดน้ำเข้าไปในจมูกการล้างจมูก จะช่วยชะล้างมูก ครา...
-
ปุ่มกระดูกในช่องปาก ปุ่มกระดูกในช่องปากมีชื่อเรียกต่างกันไปตามตำแหน่งที่พบ เช่น พบในบริเวณกึ่งกลางเพดานของขากรรไกรบน จะเร...
-
อาหารสำหรับผู้ป่วยโรคเก๊าท์ กรดยูริคที่เป็นตัวการทำให้ข้ออักเสบในผู้ป่วยโรคเก๊าท์ เกิดมาจาก “ สารพิวรีน ” ทั้งที่มีอยู่ในร่าง...
-
โรค Carpal Tunnel Syndrome หรือชื่อย่อคือ CTS เป็นโรคที่พบได้บ่อย เกิดจากเส้นประสาทมีเดียน (Median Nerve) ซึ่งเป็นเส้นประสาทที่เลี้ยงกล้า...
-
ผ่าตัดริดสีดวงทวาร อย่างไรไม่ให้เจ็บ (หรือเจ็บน้อย) โรคริดสีดวงทวารเป็นโรคที่พบบ่อย เกิดจากการโป่งพองของหลอดเลือดขนาดเล็กบริเวณเยื่อบุ...
-
ผ่าตัดริดสีดวงทวาร อย่างไรไม่ให้เจ็บ (หรือเจ็บน้อย) โรคริดสีดวงทวารเป็นโรคที่พบบ่อย เกิดจากการโป่งพองของหลอดเลือดขนาดเล็กบริเวณเยื่อบ...
จำนวนการดูหน้าเว็บรวม
ผู้ติดตาม
ขับเคลื่อนโดย Blogger.
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น