วันพฤหัสบดีที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2556
ท้องลม...ท้องหลอก
ท้องลม...ท้องหลอก
การตั้งครรภ์ไม่ใช่เรื่องที่จะจบลงอย่างสมปรารถนาทุกครั้งไป
คุณแม่จำนวนไม่น้อยที่การตั้งครรภ์ไม่สมปรารถนาและจบลงเร็วเกินไปแบบไม่ทันตั้งตัวก็มี
คุณแม่บางคนคิดว่าตัวเองตั้งครรภ์ พอไปหาหมอตรวจเข้าจริงๆ พบว่าไม่ตั้งครรภ์ก็มี
เหตุการณ์เหล่านี้พบได้บ่อยเหมือนกัน ลองมาดูกันหน่อยไหมครับว่าเกิดขึ้นได้อย่างไรท้องลม
คุณผู้หญิงบางคนเมื่อประจำเดือนขาดหายไปอาจจะรู้สึกตื่นเต้นดีใจสงสัยว่าน่าจะท้องอย่างที่หวัง ยิ่งเมื่อไปซื้อเครื่องทดสอบการตั้งครรภ์จากปัสสาวะแล้วพบว่าท้องจริงก็ยิ่งดีใจมากขึ้น แต่เมื่อไปหาคุณหมอเพื่อฝากครรภ์ ภายหลังการตรวจคุณหมอกลับแจ้งว่ามีการตั้งครรภ์จริง แต่ไม่มีตัวเด็ก หรือที่เรียกกันว่ามี ภาวะไข่ฝ่อ (Blighted ovum) คุณผู้หญิงอาจรู้สึกสับสน งุนงง ว่ามันคืออะไรกัน เกิดได้อย่างไร และจะต้องรักษาอย่างไร
ภาวะไข่ฝ่อ (blighted ovum) หรือภาษาชาวบ้านเรียกว่า ท้องลม จัดเป็นความผิดปกติของการตั้งครรภ์ชนิดหนึ่งซึ่งทำให้การตั้งครรภ์ไม่สามารถดำเนินต่อไปได้จนถึงครบกำหนดคลอด
ตามปกติภายหลังที่ไข่กับอสุจิมีการผสมกันแล้ว ก็จะมีพัฒนาการต่อไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นทารก รก ถุงน้ำคร่ำ และเมื่อครบ 280 วัน ทารกก็จะคลอดออกมา คนบางคนไม่เป็นเช่นนั้น บางคนท้องแค่ 2 - 3 เดือน เด็กก็ไม่ยอมอยู่แล้ว และจะหลุดออกมาก่อนเวลาอันควร เราเรียกเหตุการณ์นี้ว่า การแท้ง ที่แปลกกว่านี้ก็คือ คนบางคนภายหลังไข่กับอสุจิมีการผสมกันแล้วก็จะมีพัฒนาการต่อไปแต่แปลกที่ส่วนที่เป็นรกและถุงน้ำเจริญต่อไปได้ แต่ส่วนเป็นทารกกลับไม่ยอมเจริญเติบโตต่อ บางคนก็ไม่มีตัวเด็กให้เห็นเลย ในขณะที่บางคนเห็นตัวเด็ก แต่ถ้าตรวจซ้ำจะเห็นตัวเด็กเล็กลงและเสียชีวิตค้างในถุงน้ำคร่ำ ภาวะที่ไม่เห็นตัวเด็กเลย เราเรียกว่า ภาวะไข่ฝ่อหรือท้องลม คุณแม่ที่มีภาวะนี้ส่วนมากจะมีเลือดออกและแท้งออกมาในที่สุด แต่บางคนก็ค้างอยู่นานถ้าไม่ตรวจก็อาจจะไม่รู้
ที่มา...ท้องลม
การที่ไข่ภายหลังการผสมไม่เจริญเติบโตต่อ ก็เหมือนกับไข่เป็ดไข่ไก่ที่ไม่สามารถฟักออกมาเป็นตัวนั่นเอง สาเหตุที่พบบ่อยคือ ไข่หรืออสุจิที่มาผสมกันไม่แข็งแรงพอ หรือมีคุณภาพไม่ดีพอทำให้ไม่สามารถพัฒนาการต่อไปได้ สาเหตุของความไม่แข็งแรงหรือคุณภาพที่ไม่ดีของไข่หรืออสุจิมีมากมายจาระไนไม่หมด อาจเกี่ยวข้องกับการทำงานหนัก เครียด รับประทานอาหารไม่เพียงพอ พักผ่อนไม่เพียงพอ หรือมีโรคบางชนิดที่ยังไม่ได้รับการตรวจอย่างจริงจัง นอกจากนี้ยังอาจเกิดจากลักษณะทางกรรมพันธุ์ที่ผิดปกติของไข่หรืออสุจิก็เป็นได้
การจะสรุปว่าสาเหตุเกิดจากอะไรแน่ บางครั้งก็บอกยาก เพราะสาเหตุบางอย่างก็ยังไม่รู้จะตรวจอย่าง เช่น ทำงานหนักแค่ไหนถึงจะเกิดปัญหานี้ การตรวจลักษณะทางกรรมพันธุ์ของไข่กับอสุจิก็ทำยากมากมาก ส่วนมากเราจึงใช้การคาดคะเนกันเป็นส่วนมากว่าถ้ามีปัจจัยใดที่คิดว่าอาจเป็นสาเหตุได้ ก็ควรจะรักษาหรือแก้ไขเสีย
วิธีการรักษา
การรักษาภาวะไข่ฝ่อทำง่ายมาก แค่ขูดมดลูกเอาถุงน้ำคร่ำที่ผิดปกตินี้ออกให้หมดก็จบแล้ว
หลายคนคงอยากถามว่าจะป้องกันไม่ให้เกิดภาวะนี้ซ้ำได้ไหม คำตอบก็คือยังไม่มียาหรือวิธีการรักษาอะไรที่ชัดเจนในการที่จะป้องกันภาวะอันนี้ วิธีที่ดีที่สุดคือการดูแลรักษาตัวเอง ด้วยการรับประทานอาหารที่ดี ได้สัดส่วน ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเหมาะสม ไม่ทำงานหักโหมเกินไปและพักผ่อนให้เพียงพอ แคนี้ก็น่าจะเพียงพอแล้ว
ท้องหลอก
คุณผู้หญิงบางคนอาจมาพบคุณหมอที่โรงพยาบาลเนื่องจากประจำเดือนขาดหายไป ร่วมกับมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน บางคนอาจรู้สึกเหมือนมีลูกดิ้นๆ อยู่ในท้อง และรู้สึกว่าท้องโตขึ้น ปัสสาวะบ่อยด้วย บางรายอาจให้ข้อมูลด้วยว่าแต่งงานมานานอยากมีลูกแต่ไม่มีซักที จากอาการที่เล่าข้างต้นค่อนข้างมั่นใจว่าตัวเองน่าจะตั้งครรภ์
แต่เมื่อไปพบคุณหมอตรวจร่างกาย คุณหมอกลับแจ้งว่าท้องไม่โต คลำมดลูกไม่ได้ ฟังที่ท้องได้ยินแต่เสียงการเคลื่อนไหวของลำไส้ และเมื่อตรวจอัลตร้าซาวนด์ก็พบแต่มดลูกซึ่งไม่มีลักษณะของการตั้งครรภ์ให้เห็นแต่อย่างใด หลายคนอาจสงสัยว่าเป็นไปได้อย่างไร ทั้งๆที่อาการและอาการแสดงบ่งบอกว่าน่าจะท้องแล้ว
อาการที่คุณผู้หญิงรู้สึกว่าเหมือนตัวเองตั้งครรภ์ ทั้งที่ความจริงไม่มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นนั้น เราเรียกว่า “ท้องหลอก” หรือทางการแพทย์เรียกว่า spurious pregnancy หรือ pseudocyesis ซึ่งจัดเป็นความผิดปกติทางจิตชนิดหนึ่ง
ผู้ป่วยส่วนมากจะมาเล่าอาการให้คุณหมอมากมายซึ่งแต่ละอาการฟังแล้วน่าจะเกิดจากการตั้งครรภ์ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นอาการคลื่นไส้อาเจียน ปัสสาวะบ่อย คัดตึงเต้านม ประจำเดือนขาด บางคนรู้สึกว่ามีลูกดิ้นในท้อง หรือบางคนอาจคลำได้ก้อนในท้องซึ่งคิดว่าเป็นมดลูกได้ด้วยซ้ำไป
ที่มา...ท้องหลอก
สาเหตุของท้องหลอก หรือไม่มีการตั้งครรภ์จริง เกิดจากสภาพทางจิตใจเป็นหลัก ผู้หญิงกลุ่มนี้มักจะเครียดเพราะอยากมีลูกแต่ไม่มีซักที รักษามาก็ทั้งบ่อยทั้งนาน หมดเงินทองไปก็ตั้งมากแต่ก็ยังไม่ท้อง ความเครียดที่เกิดขึ้นนี้จะทำให้ต่อมใต้สมองสร้างฮอร์โมนมากระตุ้นรังไข่ พอถูกกระตุ้น รังไข่ก็จะสร้างฮอร์โมนอีกตัวหนึ่งไปกระตุ้นมดลูกทำให้ผนังมดลูกหนาตัวและไม่มีประจำ เดือน ผู้หญิงกลุ่มนี้อยากท้องอยู่แล้ว พอไม่มีประจำเดือนก็อุปาทานว่าตัวเองตั้งครรภ์ เลยกินอาหารบำรุงใหญ่ เลยทำให้อ้วนหรืออ้วนมากเกินไปด้วยซ้ำ เจ้าความอ้วนที่เกิดขึ้นก็จะทำให้มีการสะสมของไขมันใต้ผิวหนังมากขึ้น ไขมันที่ว่าสามารถสร้างฮอร์โมนไปทำให้ไม่มีประจำเดือนได้เช่นกัน เมื่อเมื่อหมอตรวจมดลูกโดยเฉพาะเมื่อตรวจด้วยอัลตราซาวนก็จะไม่พบการตั้งครรภ์แต่อย่างใด สำหรับอาการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอาการคลื่นไส้อาเจียน ปัสสาวะบ่อย รู้สึกว่ามีลูกดิ้นในท้อง หรือบางคนอาจคลำได้ก้อนในท้องซึ่งคิดว่าเป็นมดลูกล้วนแต่เป็นอุปาทานทั้งสิ้น
การรู้สึกเหมือนเด็กดิ้นเกิดจากการบีบตัวของลำไส้ การปัสสาวะบ่อยเป็นเรื่องของจิตใจที่แล้วแต่ใครจะวิตกกังวลเรื่องการถ่ายปัสสาวะมากน้อยแค่ไหน ส่วนรายที่คิดว่าคลำมดลูกได้ ส่วนมากเกืดจากผนังหน้าท้องที่หนามาก หรือท้องอืดมากจากลมในลำไส้
อย่างไรก็ตามก่อนจะสรุปว่า ท้องหลอกเกิดจากภาวะจิตใจ คุณหมอก็อาจจะต้องตรวจวินิจฉัยให้ละเอียดเสียก่อน เพราะมีโรคหรือความผิดปกติบางอย่างที่ทำให้ผู้ป่วยมีอาการหรืออาการแสดงให้เห็นคล้ายๆกับการตั้งครรภ์ได้เช่นเดียวกัน เช่นโรคของต่อมใต้สมองที่มีการสร้างฮอร์โมนบางชนิดมากเกินไป แต่พวกนี้มักมีน้ำนมไหลร่วมด้วย บางคนอาจจะมีอาการเพราะรับประทานยารักษาโรคบางอย่างเช่นยากันชัก หรือยานอนหลับบางชนิด
วิธีการรักษา
จริงๆ แล้วผู้ป่วยพวกนี้ไม่จำเป็นต้องให้การรักษาอะไร เพียงแค่ให้กำลังใจ ให้คำแนะนำ และให้การดูแลรักษาทางจิตใจ พบว่าส่วนมากแค่นี้ก็แก้ไขปัญหาได้แล้วโดยไม่ต้องให้ยา ยกเว้นกรณีที่ผู้ป่วยมีความเครียดและวิตกกังวลมาก ก็อาจต้องให้ยาคลายความวิตกกังวล
แม้ว่าโอกาสเจอะเจอผู้ป่วยประเภทนี้อยู่เพียงประปรายแต่ก็อาจจะเกิดปัญหาขึ้นได้ เนื่องจากผู้ป่วยกลุ่มนี้จะเป็นคนที่คาดหวังสูงและตั้งใจมากอยู่แล้ว ซึ่งเมื่อรู้ความจริงก็จะเกิดความผิดหวังที่รุนแรง ทำให้อาจเกิดการฟ้องร้องได้เหมือนกันว่าหมอตรวจผิดตรวจพลาดหรือเปล่า
สุดท้าย
ผมอยากฝากไว้ว่า สภาพร่างกายที่สดชื่น สมบูรณ์แข็งแรง เป็นสิ่งสำคัญประการแรกๆที่จะทำให้คุณแม่มีการตั้งครรภ์ที่ดี ดำเนินการตั้งครรภ์อย่างปกติ และลงเอยด้วยการคลอดที่ปลอดภัยการใส่ใจดูแลสุขภาพของตัวเองไม่ให้เครียดจนเกินไป ก็จะทำให้มีการตั้งครรภ์ที่ดี ไม่มีภาวะท้องลมท้องหลอกเกิดขึ้น ขอให้คุณแม่โชคดีมีลูกเจริญเติบโตแข็งแรงสมความปรารถนานะครับ
ที่มา รศ.นพ.วิทยา ถิฐาพันธ์
ภาควิชาสูติศาสตร์ - นรีเวชวิทยา
Faculty of
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
ป้ายกำกับ:
ท้องลม,
หญิงตั้งครรภ์
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ค้นหาใน Web นี้
บทความที่ได้รับความนิยม
-
Tennis Elbow คือกลุ่มอาการปวดกล้ามเนื้อ เส้นเอ็นทางด้านนอกข้อศอก ซึ่งเกิดจากการอักเสบตรงบริเวณที่ยึดเกาะของกล้ามเนื้อที่ใช้ในการกระดกข้อมือ...
-
เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส วาริเซลลา มีลักษณะอาการเป็นผื่นแดงราบ ตุ่มใส ตุ่มหนอง กระจายตามหน้า ลำตัว และแผ่นหลัง และมีไข้ เกิดจากเชื้อไว...
-
การขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชาย จำเป็นหรือไม่ ? บทนำ การขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชาย เป็นการผ่าตัดเล็กที่ทำกันบ่อยมาก จนเกือ...
-
ต่อมทอนซิล คือต่อมน้ำเหลืองที่อยู่บริเวณด้านข้างลำคอตรงโคนลิ้น เป็นส่วนหนึ่งของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ภายในต่อมมีเม็ดเลือดขาวหลายชนิดทำ...
-
การล้างจมูกคืออะไร การล้างจมูก คือ การทำความสะอาดโพรงจมูก โดยการใส่ หรือหยอดน้ำเข้าไปในจมูกการล้างจมูก จะช่วยชะล้างมูก ครา...
-
ปุ่มกระดูกในช่องปาก ปุ่มกระดูกในช่องปากมีชื่อเรียกต่างกันไปตามตำแหน่งที่พบ เช่น พบในบริเวณกึ่งกลางเพดานของขากรรไกรบน จะเร...
-
อาหารสำหรับผู้ป่วยโรคเก๊าท์ กรดยูริคที่เป็นตัวการทำให้ข้ออักเสบในผู้ป่วยโรคเก๊าท์ เกิดมาจาก “ สารพิวรีน ” ทั้งที่มีอยู่ในร่าง...
-
โรค Carpal Tunnel Syndrome หรือชื่อย่อคือ CTS เป็นโรคที่พบได้บ่อย เกิดจากเส้นประสาทมีเดียน (Median Nerve) ซึ่งเป็นเส้นประสาทที่เลี้ยงกล้า...
-
ผ่าตัดริดสีดวงทวาร อย่างไรไม่ให้เจ็บ (หรือเจ็บน้อย) โรคริดสีดวงทวารเป็นโรคที่พบบ่อย เกิดจากการโป่งพองของหลอดเลือดขนาดเล็กบริเวณเยื่อบุ...
-
ผ่าตัดริดสีดวงทวาร อย่างไรไม่ให้เจ็บ (หรือเจ็บน้อย) โรคริดสีดวงทวารเป็นโรคที่พบบ่อย เกิดจากการโป่งพองของหลอดเลือดขนาดเล็กบริเวณเยื่อบ...
จำนวนการดูหน้าเว็บรวม
ผู้ติดตาม
ขับเคลื่อนโดย Blogger.
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น